สร้างอย่างชาญฉลาดขึ้นเพื่อช่วยลดการปล่อยคาร์บอนของนิวซีแลนด์

Share:

การศึกษาใหม่จะสำรวจว่าอาคารสาธารณะรวมถึงโรงเรียนสามารถออกแบบให้ใช้เทคโนโลยีการทำความเย็นและความร้อนอย่างยั่งยืนได้อย่างไร และช่วยให้นิวซีแลนด์บรรลุเป้าหมายสุทธิเป็นศูนย์ในปี 2050

มหาวิทยาลัย Canterbury ภาควิชาวิศวกรรมโยธาและทรัพยากรธรรมชาติ อาจารย์อาวุโส Dr Wentao Wu เป็นผู้นำการวิจัยระดับนานาชาติซึ่งมีเป้าหมายเพื่อลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนโดยการปรับปรุงประสิทธิภาพการใช้พลังงานในอาคารขนาดใหญ่

เขาได้รับทุนสนับสนุนจาก Royal Society Te Apārangi Catalyst เพื่อค้นหาวิธีที่ภาคอาคารสามารถใช้แหล่งพลังงานหมุนเวียน เช่น การระบายอากาศตามธรรมชาติและพลังงานแสงอาทิตย์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงานของมวลความร้อน – ศักยภาพในการดูดซับความร้อนของการตกแต่งภายในและพื้นคอนกรีต – การสร้าง “ อาคารคาร์บอนต่ำ”

ดร. วูกล่าวว่า “ภาวะโลกร้อนได้กระตุ้นให้เราค้นหาวิธีแก้ปัญหาคาร์บอนที่เป็นกลาง”

ปัจจุบัน ภาคการก่อสร้างของนิวซีแลนด์คิดเป็นร้อยละ 9 ของการปล่อยคาร์บอนทั้งหมดของเรา และรัฐบาลมุ่งมั่นที่จะบรรลุเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ภายในปี 2593

ดร.อู๋เป็นผู้นำโครงการร่วมกับนักวิจัยในมหาวิทยาลัย 6 แห่งจาก 5 ประเทศ รวมถึงมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดในสหรัฐอเมริกา มหาวิทยาลัยคาร์ดิฟฟ์ในสหราชอาณาจักร และมหาวิทยาลัยฉงชิงของจีน

ดร. วูกล่าวว่าทางออกหนึ่งในการออกแบบอาคารที่ปล่อยมลพิษต่ำคือการใช้อากาศภายนอกที่เย็นกว่าในตอนกลางคืนเพื่อระบายอากาศภายในอาคาร

ในฤดูหนาว เขาเชื่อว่าท่อน้ำร้อนพลังงานแสงอาทิตย์ที่วางอยู่ภายในพื้นคอนกรีตสามารถนำมาใช้แทนระบบทำความร้อนด้วยไฟฟ้าแบบเดิมได้

เขาหวังที่จะพัฒนาแนวทางการออกแบบและปรับปรุงใหม่ซึ่งจะช่วยให้ผู้กำหนดนโยบาย สถาปนิก และผู้สร้างสร้างอาคารที่ประหยัดพลังงานมากขึ้น ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนในภาคส่วนนี้

เมื่อเร็ว ๆ นี้ ดร.อู๋ ได้ทำการวิจัยในสหรัฐอเมริกา ซึ่งได้รับทุนสนับสนุนจากมูลนิธิวิทยาศาสตร์แห่งชาติสหรัฐ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพของการใช้ระบบระบายอากาศในเวลากลางคืนเพื่อทำให้ภายในอาคารเย็นลง เพื่อที่จะสามารถทำหน้าที่เป็นตัวระบายความร้อนในวันรุ่งขึ้น

เครดิต: sunlive.co.nz

Related Articles

Recent Articles