การขุดปุ๋ยในท้องถิ่นดีกว่าการซื้อ ‘ฟอสเฟตในเลือด’ – รายงาน

Attention: This article was automatically translated and is still waiting on one of our editors to approve the translated content. 
Share:

รายงานชี้ให้เห็นว่าฟาร์มนิวซีแลนด์สามารถลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้โดยการจัดหาปุ๋ยทั่วไปจากเหมืองท้องถิ่นแทนที่จะนำเข้า ‘ฟอสเฟตในเลือด’รายงานนี้จัดทำโดย บริษัท เหมืองแร่ แอล แอนด์ เอ็ม กรุ๊ป และที่ปรึกษา Agribusiness Group และได้รับการสนับสนุนจากความท้าทายวิทยาศาสตร์แห่งชาติ Our Land and Water ที่ได้รับทุนจากสาธารณะ

ฟอสเฟตซึ่งคิดเป็นประมาณครึ่งหนึ่งของปุ๋ยที่ใช้ในนิวซีแลนด์ ช่วยเพิ่มการเจริญเติบโตของพืช แต่สามารถก่อให้เกิดมลพิษทางน้ำได้หากใช้มากเกินไปการศึกษาระหว่างประเทศแยกต่างหากพบว่าเกษตรกรจำนวนมากทั่วโลกใช้ฟอสเฟตมากเกินไปทำให้เกิดมลพิษที่ไม่จำเป็นในขณะที่คนอื่น ๆ ไม่เพียงพอที่จะเพิ่มการผลิตอาหารให้มากที่สุด

ผู้เขียนการศึกษาระหว่างประเทศเตือนว่าฟอสเฟตซึ่งไม่สามารถหมุนเวียนได้ควรใช้อย่างประหยัดมากขึ้นเพื่อให้มีอายุการใช้งานนานกว่า 500 ปีในปี 2021 นิวซีแลนด์เป็นผู้นำเข้าฟอสเฟตที่ใหญ่เป็นอันดับเก้าของโลกโดยมี 51% ของอุปทานมาจากโมร็อกโก ตามด้วยโตโกและจีน

รายงานชี้ให้เห็นว่าการขุดฟอสเฟตในท้องถิ่นอาจมีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมประมาณครึ่งหนึ่งของการนำเข้านอกจากนี้ยังระบุถึงประโยชน์ทางจริยธรรมเนื่องจากจะจัดการกับปัญหาทางการเมืองและสังคมที่เกี่ยวข้องกับการใช้ ‘ฟอสเฟตในเลือด’ จากซาฮาราตะวันตกซึ่งเป็นภูมิภาคที่โต้เถียงกันซึ่งผนวกโดยโมร็อกโกในทศวรรษ 1970

อย่างไรก็ตาม รายงานยอมรับว่าการทำเหมืองแบบเปิดโล่ง คล้ายกับการขุดหินหินปูนจะมีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมนอกจากนี้ยังชี้ให้เห็นว่านิวซีแลนด์อาจผลิตปุ๋ยในรูปแบบที่ปล่อยตัวช้ากว่าซึ่งจะมีโอกาสน้อยที่จะก่อให้เกิดมลพิษต่อทะเลสาบ แม่น้ำ และชั้นน้ำอุ่นปัจจุบัน 64% ของความยาวของแม่น้ำในนิวซีแลนด์มีความเข้มข้นของฟอสฟอรัสในระดับที่ก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อสิ่งแวดล้อม

L&M Group ได้ระบุการสะสมฟอสเฟตที่อาจเกิดขึ้นใน Clarendon, Otago, North Canterbury และไคโคอุระ

Related Articles

Recent Articles

You've switched the language and there are items in the cart. If you keep the ไทย language, the cart will be emptied and you will have to add the items again to the cart.